วิธีแปลง PNG เป็น DWG (พร้อมรูปภาพ)

สารบัญ:

วิธีแปลง PNG เป็น DWG (พร้อมรูปภาพ)
วิธีแปลง PNG เป็น DWG (พร้อมรูปภาพ)
Anonim

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการแปลงไฟล์-p.webp

ขั้นตอน

วิธีที่ 1 จาก 2: การใช้ ReaConverter

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 1
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 1

ขั้นตอนที่ 1. ไปที่ https://www.reaconverter.com/download ในเว็บเบราว์เซอร์

ใช้เว็บเบราว์เซอร์ที่คุณต้องการ ไปที่หน้าดาวน์โหลด ReaConverter

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 2
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 2

ขั้นตอนที่ 2 คลิกดาวน์โหลดมาตรฐาน

การดำเนินการนี้จะเริ่มดาวน์โหลดไฟล์การติดตั้งสำหรับ ReaConverter ReaConverter Standard ราคา $49.99 แต่ให้ทดลองใช้งานฟรี 15 วันก่อนซื้อ ReaConverter Lite เป็นบริการฟรี แต่ไม่ได้แปลงไฟล์เป็นรูปแบบ DWG ReaConverter ไม่มีซอฟต์แวร์เวอร์ชัน Mac

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 3
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 3

ขั้นตอนที่ 3 ดับเบิลคลิกที่ไฟล์การติดตั้ง

เป็นไฟล์ชื่อ "ReaConverterStandard-Setup.exe" ทำตามคำแนะนำการติดตั้งเพื่อเริ่มการติดตั้ง

ตามค่าเริ่มต้น การดาวน์โหลดมักจะอยู่ในโฟลเดอร์ "ดาวน์โหลด"

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 4
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 4

ขั้นตอนที่ 4 เปิด ReaConverter

เมื่อติดตั้งแล้วให้คลิก เสร็จสิ้น เพื่อเปิดโปรแกรมหลังการติดตั้ง หรือคุณสามารถดับเบิลคลิกที่ไอคอนแอปพลิเคชัน ReaConverter เพื่อเริ่มโปรแกรม เป็นแอพที่มีรูปเครื่องปิ้งขนมปัง

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 5
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 5

ขั้นตอนที่ 5. คลิก ดำเนินการต่อ เพื่อเริ่มช่วงทดลองใช้ 15 วัน

ที่เป็นปุ่มด้านขวาล่างของหน้าต่างป๊อปอัป คุณจะต้องซื้อ ReaConverter Standard เพื่อใช้งานซอฟต์แวร์ต่อไปหลังจากช่วงทดลองใช้งาน ในช่วงทดลองใช้งานฟรี คุณจะสามารถแปลงไฟล์ได้ห้าไฟล์ต่อการแปลงเท่านั้น

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 6
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 6

ขั้นตอนที่ 6. คลิก + เพิ่มไฟล์

ที่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง ใต้ tab "Files and folders"

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่7
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่7

ขั้นตอนที่ 7 คลิก เพิ่มไฟล์

ทางด้านบนของเมนูที่ขยายลงมา

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 8
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 8

ขั้นตอนที่ 8 เลือกไฟล์-p.webp" />

ไปที่โฟลเดอร์ที่มีไฟล์-p.webp

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 9
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 9

ขั้นที่ 9. คลิก + ข้าง "แปลงเป็น"

ที่เป็นเครื่องหมายบวก "+" ข้าง "convert to" ท้ายหน้าต่าง ซึ่งจะเป็นการเปิดเพจที่มีประเภทไฟล์เพิ่มเติม

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 10
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 10

ขั้นตอนที่ 10 เลือก DWG

อยู่ในคอลัมน์แรกใต้ "D"

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 11
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 11

ขั้นตอนที่ 11 คลิกเริ่ม

ที่เป็นปุ่มสีเขียว ที่ด้านขวาล่างของหน้าต่าง สิ่งนี้เริ่มการแปลงไฟล์ รอสักครู่เพื่อให้รูปภาพแปลง

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 12
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 12

ขั้นตอนที่ 12. คลิกแสดงไฟล์ที่แปลงแล้ว

ที่เป็นปุ่มที่ด้านล่างของหน้าต่าง ข้างปุ่ม "Close" สีแดง ซึ่งจะเปิดโฟลเดอร์ที่บันทึกไฟล์ DWG ที่แปลงแล้ว

วิธีที่ 2 จาก 2: การใช้ Adobe Illustrator

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 13
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 13

ขั้นตอนที่ 1. เปิด Adobe Illustrator

ที่ไอคอนสีส้มเขียนว่า "Ai" บนพื้นสีเข้ม

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 14
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 14

ขั้นตอนที่ 2 คลิกไฟล์

ในเมนูด้านบนของหน้าต่างโปรแกรม เพื่อเปิดเมนูแบบเลื่อนลง

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 15
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 15

ขั้นตอนที่ 3 คลิก เปิด

ทางด้านบนของเมนูที่ขยายลงมา

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 16
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 16

ขั้นตอนที่ 4 เลือกภาพ-p.webp" />

ไปที่โฟลเดอร์ที่มีไฟล์-p.webp

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 17
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 17

ขั้นตอนที่ 5. คลิกเปิด

ที่ด้านขวาล่างของหน้าต่าง file explorer

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 18
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 18

ขั้นตอนที่ 6 คลิกเครื่องมือการเลือกในแถบเครื่องมือ

ที่เป็นลูกศรสีดำ ทางด้านบนของ toolbar ทางซ้าย

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 19
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 19

ขั้นตอนที่ 7 คลิกและลากเพื่อเลือกภาพทั้งหมด

คุณยังสามารถเลือกทุกอย่างได้โดยกด Ctrl+A แทน

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 20
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 20

ขั้นตอนที่ 8 คลิกหน้าต่าง

ในเมนูด้านบนของหน้าต่าง Illustrator ซึ่งจะเปิดเมนูแบบเลื่อนลงพร้อมตัวเลือกเพิ่มเติม

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 21
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 21

ขั้นตอนที่ 9 คลิก Image Trace

ซึ่งจะเปิดหน้าต่างป๊อปอัป "Image Trace" พร้อมตัวเลือกเพิ่มเติม

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 22
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 22

ขั้นตอนที่ 10. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงถัดจาก "โหมด" และเลือกโหมดการติดตาม

ซึ่งจะเปิดเมนูแบบเลื่อนลงพร้อมตัวเลือกต่อไปนี้:

  • สี: แปลงสีในภาพ แต่ละสีเป็นวัตถุของตัวเอง
  • ระดับสีเทา: แปลงแต่ละสีเป็นวัตถุที่แตกต่างกันด้วยเฉดสีเทาที่ต่างกัน
  • ดำและขาว: หากคุณต้องการแปลงเฉพาะส่วนที่วาดเป็นสีดำ และพื้นที่ว่างเป็นสีขาว
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 23
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 23

ขั้นตอนที่ 11 ปรับการตั้งค่าการติดตามตามที่คุณต้องการ

คุณสามารถปรับแถบเลื่อนและตัวเลือกใดก็ได้เพื่อเปลี่ยนรูปภาพตามที่คุณต้องการ

คุณสามารถคลิกช่องทำเครื่องหมายสำหรับ "ดูตัวอย่าง" เพื่อดูว่ารูปภาพจะมีลักษณะอย่างไรเมื่อแปลงแล้ว

แปลง เป็น DWG ขั้นตอน 24
แปลง เป็น DWG ขั้นตอน 24

ขั้นตอนที่ 12. คลิกติดตาม

รูปภาพจะถูกแปลงเป็นรูปแบบเวกเตอร์

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 25
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 25

ขั้นตอนที่ 13 คลิก ไฟล์

อยู่ในเมนูด้านบน ซึ่งจะเปิดรายการดรอปดาวน์ตัวเลือกไฟล์หลัก

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 26
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 26

ขั้นตอนที่ 14. คลิก ส่งออก

กลางรายการแบบเลื่อนลงประมาณครึ่งทาง ซึ่งจะเป็นการเปิดเมนูป๊อปอัปขนาดเล็กที่มีตัวเลือกเพิ่มเติม

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 27
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 27

ขั้นตอนที่ 15 คลิก ส่งออกเป็น

ที่เป็นตัวเลือกที่ 2 กลางเมนูที่โผล่มา

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 28
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 28

ขั้นที่ 16. คลิกที่ช่อง "Save as type" ให้ขยายลงมา แล้วเลือก "AutoCAD Drawing"

ทางด้านบนของรายการประเภทไฟล์ที่ขยายลงมา

แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 29
แปลง เป็น DWG ขั้นตอนที่ 29

ขั้นตอนที่ 17 คลิก ส่งออก

เมื่อคุณตั้งชื่อไฟล์ใหม่และเลือกตำแหน่งในหน้าต่าง file explorer แล้ว ให้คลิกปุ่ม "ส่งออก" ที่มุมขวาล่างของหน้าต่าง "ส่งออก" ซึ่งจะเปิดหน้าต่างความเข้ากันได้

แปลง เป็น DWG ขั้นตอน 30
แปลง เป็น DWG ขั้นตอน 30

ขั้นตอนที่ 18 เลือกเวอร์ชัน AutoCAD แล้วคลิกตกลง

เลือกเวอร์ชันที่เข้ากันได้กับเวอร์ชันของ AutoCAD ที่คุณใช้ในกล่องแบบเลื่อนลง จากนั้นคลิก "ตกลง" เมื่อคุณพร้อมที่จะบันทึกไฟล์ รูปภาพ-p.webp

ชุมชนถาม & ตอบ

ค้นหา เพิ่มคำถามใหม่ ถามคำถาม เหลือ 200 ตัวอักษร รวมที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อรับข้อความเมื่อตอบคำถามนี้ ส่ง

แนะนำ: